เจอกันอีกแล้ว
คราวนี้ไม่ได้หายไปนานให้แฟนๆลืมเหมือนคราวที่แล้ว
ใครที่ตามอ่านเรื่องคำถามประหลาดคราวที่แล้ว
และได้ประสบพบเจอคำถามแบบอึ้งกิมกี่ก็แชร์กันหน่อยนะคะ จะไปหย่อนไว้ใน Inbox
ก็ไม่ว่ากัน
คราวนี้มาแบ่งปันเรื่องส่วนตัว (ของคนอื่น) กันเล็กน้อย
อีกล่ะเดี๊ยนไปอ่านเจอโฆษณาบนหนังสือ Inflight Magazine
ของสายการบินDelta
แล้วเหลือบไปเห็น อะไรหว่า Executive Search Meets Personal
Matching ไหนลองดูซิว่ามันคืออะไร
อ่านแล้ว อดใจไม่เอามาแชร์ให้แฟนเพจไม่ได้แล้วล่ะ เพราะว่าเค้าเอาวิธีการทำ Head
Hunting มาใช้ในการหาคู่คร้า... แฟนๆขา ก่อนจะอธิบายเรื่องหาคู่ เดี๊ยนคงต้องอธิบายเรื่อง Executive
Search ก่อนเพื่อจะได้เข้าใจในวิธีการนะคร้า
สาวๆอย่าเพิ่งตื่นเต้น
อย่างที่เดี๊ยนอธิบายในเรื่องของ Head
hunting ในบทความแรกแฟนๆคงพอเข้าใจไปบ้าง คราวนี้เลยขออธิบายเรื่อง Executive
Search กับการหาคู่ไปเลยละกัน โดยปกติบริษัทจะใช้บริการ Retain
Executive Search กับตำแหน่งที่สำคัญๆ
เช่นพวก MD,
GM, CEO, CFO หรือที่เราเรียกว่า
ตำแหน่ง C
suites ทั้งหลาย หรือ
ตำแหน่งหาย๊ากยาก แบบว่าในประเทศไทยมีสิบกว่าคนและพูดภาษาอังกฤษได้ 2
คน ประมาณนั้น เป็นต้น
Retain ต่างกันยังไงกับ Head Hunt
หรือ Recruit ทั่วๆไป
อันนี้เดี๊ยนโดน HR จัดหนักมาตลอดว่า "มันก้อเหมือนๆกันน่ะแหละ" มันต่างกันตรงที่
บริษัท Retain นั้นได้รับค่าจ้างในการสรรหาเพื่อสรรหาตำแหน่งนั้นๆ
และได้รับมอบหมายให้สรรหาเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น สำหรับตำแหน่งนั้นๆ
หรือที่เรียกว่า Exclusive นั่นเอง
ดังนั้นลูกค้าต้องมั่นใจในตัวองค์กรว่าสามารถสรรหาบุคลากรตามที่ "สั่ง" ไม่ใช่แค่ดู resume สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แล้ว จับส่งๆ
คุณสมบัติไม่เป๊ะ แรงบรรดาลใจในการทำงานไม่ได้
ไม่น่าเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรณ์ได้ ไม่ต้องส่งให้ลูกค้านะคร้า ขายหน้าป่าวๆ
ในบางครั้งเราแทบจะพลิกแผ่นดินหากันเลยที่เดียว ต้องใช้คำว่า "เป๊ะ" อย่างเดียวเท่านั้น
ดังนั้น
จำนวนของคุณแคนดิเดทที่ส่งให้ลูกค้าจะมีตั้งแต่ 1
คน ไม่เกิน 4 คนเท่านั้น
และที่ดีไปกว่านั้นคือ ทั้งคุณลูกค้าและคุณแคนดิเดทต่างก้อรู้ข้อมูลของกันและกันก่อนจะไปเจอกันคร้า นอกจากจะเป็นแบบตำแหน่งลับสุดยอด
อันนั้นจะไม่เปิดเผยลูกค้า
Consultant ของบริษัท Executive
Search จะต้องนัดเจอคุณก่อนเพื่อรู้จักตัวเป็นๆ เห็นหน้าตา
และรวมไปถึงการสัมภาษณ์ นับไปเลยนะคะ ขั้นต่ำ 1 ½ -2 ชั่วโมง
เพื่อ Consultant จะได้ทำความรู้จักคุณมากขึ้นและดูว่าจะเหมาะสำหรับลูกค้ามั้ย
และที่สำคัญ คุณ"ยินยอม" ให้ส่งข้อมูลและนัดเจอกับลูกค้ามั้ยคร้า
"สนมั้ยตัว?"
ดังนั้นถ้าถามว่าเหมือนกันมั้ยกับ Retain
Search เหมือนแค่ส่วนนึง คือการสรรหา
หรือ Recruit แต่ที่ต่างกัน คือรายละเอียดชองกระบวนการสรรหาและคัดเลือก
เพราะก่อนที่จะลงมือสรรหา หรือ search
เนี่ยต้องมีการจัดทำเรื่องคุณสมบัติตามที่ลูกค้าต้องการกันเป็น Check
list ว่า บุคลิก ความสามารถ
competency,
technical skill, soft skill และทดสอบทางด้านจิตวิทยา ความเป็นผู้นำ
อื่นๆอีกมากมาย
อันนี้ไม่ขอลงรายละเอียดนะคร้า เด๋วจะโดนลิขสิทธ์ แต่ที่เค้าสามารถใช้เวลาในการหาเพราะว่ามีการลงทุนเรื่องเวลากับทางบริษัท
Executive Search ไปแล้ว
จ่ายเงินไปแล้ว ลูกค้าเลือกได้ฮ่ะ สั่งได้ เปลี่ยนได้ (อันนี้อย่ามีบ่อยนะตัว) ให้ค้นหากันจนเจอ
หากันแบบข้ามขอบฟ้าก็มี หาไม่เจอไม่เลิก
มาเข้าเรื่อง Executive
Search Meets Personal Matching เหมือนกันเลยคร้า
บริการนี้เค้ามีให้หนุ่มๆทั้งหลายที่มีคุณสมบัติ มีกะตังส์แต่ไม่มีเวลาหาคู่
หรือจีบสาวไม่เป็น
เค้าก็ไปเจอบริษัทนี้เพื่อให้รายละเอียดชีวิตและคู่ชีวิตที่อยากได้
และต้องได้แบบเป๊ะด้วยนะคร้า แบบรูปร่างหน้าตา บุคลิก เชื้อชาติ ศาสนา ความฉลาด
อายุ การใช้ชีวิต ความสนใจและ อีกหลายอย่าง เพราะเค้าใช้คำว่า Custom-Tailored
search รายละเอียดของการทำงานต้องมากกว่าบริษัทหาคู่ทั่วๆไปแน่นอน
ท่าทางค่าสรรหาคงไม่น้อยนะคร้า ใครสนใจไปเปิดกิจการในเมืองไทย
เดี๊ยนขอร่วมหุ้นด้วยคนฮ่ะ เค้าบอกวิธีสรรหานี่เหมือนกับบริษัท Executive Search Firm กันเลยทีเดียว ไม่รู้ไป Head Hunt คุณแคนดิเดทกันตรงไหนบ้างนะคะเนี่ย สำหรับสาวๆ ฝากProfile เอาไว้ค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเข้าบอกว่า "We are retained by the most selective, eligible, highly educated...Bachelors" ฝ่ายชายเค้าจ่ายมาเพื่อสรรหาคู่ชีวิตมาแล้ว ฝ่ายหญิงมีหน้าที่ศึกษาเรียนรู้ "เลือก" และตอบรับคร้า น่าสนมั้ยล่ะ สาวๆ
ดังนั้น จบตรงที่ว่า
องค์กรให้ความสำคัญในการคัดเลือกบุคลากรใช้บริการ Retain Executive
Search Firm เป็นผู้สรรหาและคัดเลือกผู้เดียว
ในขณะเดียวกัน หนุ่มๆ Eligible bachelors ทั้งหลายก็ใช้วิธีเดียวกันในการคัดเลือกคู่ชีวิต
ถ้าไม่ดีเค้าคงไม่ใช้บริการแน่นอน
เดี๊ยนไม่ได้โฆษณานะ แต่ของเค้าดีจริงๆ
เจอกันคราวหน้าคร้า