Tuesday, January 14, 2014

The Match Maker

The Match Maker

เจอกันอีกแล้ว คราวนี้ไม่ได้หายไปนานให้แฟนๆลืมเหมือนคราวที่แล้ว ใครที่ตามอ่านเรื่องคำถามประหลาดคราวที่แล้ว และได้ประสบพบเจอคำถามแบบอึ้งกิมกี่ก็แชร์กันหน่อยนะคะ จะไปหย่อนไว้ใน Inbox ก็ไม่ว่ากัน
คราวนี้มาแบ่งปันเรื่องส่วนตัว (ของคนอื่น) กันเล็กน้อย อีกล่ะเดี๊ยนไปอ่านเจอโฆษณาบนหนังสือ Inflight Magazine ของสายการบินDelta แล้วเหลือบไปเห็น อะไรหว่า Executive Search Meets Personal Matching ไหนลองดูซิว่ามันคืออะไร อ่านแล้ว อดใจไม่เอามาแชร์ให้แฟนเพจไม่ได้แล้วล่ะ เพราะว่าเค้าเอาวิธีการทำ Head Hunting มาใช้ในการหาคู่คร้า... แฟนๆขา  ก่อนจะอธิบายเรื่องหาคู่  เดี๊ยนคงต้องอธิบายเรื่อง Executive Search ก่อนเพื่อจะได้เข้าใจในวิธีการนะคร้า สาวๆอย่าเพิ่งตื่นเต้น

อย่างที่เดี๊ยนอธิบายในเรื่องของ Head hunting ในบทความแรกแฟนๆคงพอเข้าใจไปบ้าง คราวนี้เลยขออธิบายเรื่อง Executive Search กับการหาคู่ไปเลยละกัน  โดยปกติบริษัทจะใช้บริการ Retain Executive Search กับตำแหน่งที่สำคัญๆ เช่นพวก MD, GM, CEO, CFO หรือที่เราเรียกว่า ตำแหน่ง C suites ทั้งหลาย หรือ ตำแหน่งหาย๊ากยาก แบบว่าในประเทศไทยมีสิบกว่าคนและพูดภาษาอังกฤษได้ 2 คน ประมาณนั้น เป็นต้น
Retain ต่างกันยังไงกับ Head Hunt หรือ Recruit ทั่วๆไป อันนี้เดี๊ยนโดน HR จัดหนักมาตลอดว่า "มันก้อเหมือนๆกันน่ะแหละ" มันต่างกันตรงที่ บริษัท Retain นั้นได้รับค่าจ้างในการสรรหาเพื่อสรรหาตำแหน่งนั้นๆ และได้รับมอบหมายให้สรรหาเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น สำหรับตำแหน่งนั้นๆ หรือที่เรียกว่า Exclusive นั่นเอง ดังนั้นลูกค้าต้องมั่นใจในตัวองค์กรว่าสามารถสรรหาบุคลากรตามที่ "สั่ง" ไม่ใช่แค่ดู resume สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แล้ว จับส่งๆ  คุณสมบัติไม่เป๊ะ แรงบรรดาลใจในการทำงานไม่ได้ ไม่น่าเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรณ์ได้ ไม่ต้องส่งให้ลูกค้านะคร้า ขายหน้าป่าวๆ ในบางครั้งเราแทบจะพลิกแผ่นดินหากันเลยที่เดียว ต้องใช้คำว่า "เป๊ะ" อย่างเดียวเท่านั้น

ดังนั้น จำนวนของคุณแคนดิเดทที่ส่งให้ลูกค้าจะมีตั้งแต่ 1 คน ไม่เกิน 4 คนเท่านั้น และที่ดีไปกว่านั้นคือ ทั้งคุณลูกค้าและคุณแคนดิเดทต่างก้อรู้ข้อมูลของกันและกันก่อนจะไปเจอกันคร้า  นอกจากจะเป็นแบบตำแหน่งลับสุดยอด อันนั้นจะไม่เปิดเผยลูกค้า
Consultant ของบริษัท Executive Search จะต้องนัดเจอคุณก่อนเพื่อรู้จักตัวเป็นๆ เห็นหน้าตา และรวมไปถึงการสัมภาษณ์ นับไปเลยนะคะ ขั้นต่ำ 1 ½ -2 ชั่วโมง เพื่อ Consultant จะได้ทำความรู้จักคุณมากขึ้นและดูว่าจะเหมาะสำหรับลูกค้ามั้ย และที่สำคัญ คุณ"ยินยอม" ให้ส่งข้อมูลและนัดเจอกับลูกค้ามั้ยคร้า "สนมั้ยตัว?"

ดังนั้นถ้าถามว่าเหมือนกันมั้ยกับ Retain Search เหมือนแค่ส่วนนึง  คือการสรรหา หรือ Recruit แต่ที่ต่างกัน คือรายละเอียดชองกระบวนการสรรหาและคัดเลือก  เพราะก่อนที่จะลงมือสรรหา หรือ search เนี่ยต้องมีการจัดทำเรื่องคุณสมบัติตามที่ลูกค้าต้องการกันเป็น Check list ว่า บุคลิก ความสามารถ competency, technical skill, soft skill และทดสอบทางด้านจิตวิทยา ความเป็นผู้นำ อื่นๆอีกมากมาย  อันนี้ไม่ขอลงรายละเอียดนะคร้า เด๋วจะโดนลิขสิทธ์  แต่ที่เค้าสามารถใช้เวลาในการหาเพราะว่ามีการลงทุนเรื่องเวลากับทางบริษัท Executive Search ไปแล้ว  จ่ายเงินไปแล้ว ลูกค้าเลือกได้ฮ่ะ สั่งได้ เปลี่ยนได้ (อันนี้อย่ามีบ่อยนะตัว) ให้ค้นหากันจนเจอ หากันแบบข้ามขอบฟ้าก็มี หาไม่เจอไม่เลิก
มาเข้าเรื่อง Executive Search Meets Personal Matching เหมือนกันเลยคร้า บริการนี้เค้ามีให้หนุ่มๆทั้งหลายที่มีคุณสมบัติ มีกะตังส์แต่ไม่มีเวลาหาคู่ หรือจีบสาวไม่เป็น เค้าก็ไปเจอบริษัทนี้เพื่อให้รายละเอียดชีวิตและคู่ชีวิตที่อยากได้ และต้องได้แบบเป๊ะด้วยนะคร้า แบบรูปร่างหน้าตา บุคลิก เชื้อชาติ ศาสนา ความฉลาด อายุ การใช้ชีวิต ความสนใจและ อีกหลายอย่าง เพราะเค้าใช้คำว่า Custom-Tailored search รายละเอียดของการทำงานต้องมากกว่าบริษัทหาคู่ทั่วๆไปแน่นอน ท่าทางค่าสรรหาคงไม่น้อยนะคร้า ใครสนใจไปเปิดกิจการในเมืองไทย เดี๊ยนขอร่วมหุ้นด้วยคนฮ่ะ

เค้าบอกวิธีสรรหานี่เหมือนกับบริษัท Executive Search Firm กันเลยทีเดียว ไม่รู้ไป Head Hunt คุณแคนดิเดทกันตรงไหนบ้างนะคะเนี่ย สำหรับสาวๆ ฝากProfile เอาไว้ค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะเข้าบอกว่า "We are retained by the most selective, eligible, highly educated...Bachelors" ฝ่ายชายเค้าจ่ายมาเพื่อสรรหาคู่ชีวิตมาแล้ว ฝ่ายหญิงมีหน้าที่ศึกษาเรียนรู้ "เลือก" และตอบรับคร้า น่าสนมั้ยล่ะ สาวๆ

ดังนั้น จบตรงที่ว่า องค์กรให้ความสำคัญในการคัดเลือกบุคลากรใช้บริการ Retain Executive Search Firm เป็นผู้สรรหาและคัดเลือกผู้เดียว ในขณะเดียวกัน หนุ่มๆ Eligible bachelors ทั้งหลายก็ใช้วิธีเดียวกันในการคัดเลือกคู่ชีวิต ถ้าไม่ดีเค้าคงไม่ใช้บริการแน่นอน

เดี๊ยนไม่ได้โฆษณานะ แต่ของเค้าดีจริงๆ เจอกันคราวหน้าคร้า

 

Tuesday, January 7, 2014

คำถามประหลาดๆ ในการสัมภาษณ์งาน

คำถามประหลาดๆ ในการสัมภาษณ์งาน

สวัสดีปีใหม่นะคร้าคุณแฟนเพจทั้งหลาย เดี๊ยนหายไปชาร์จแบต เพิ่มพลังในการทำงานให้กับตัวเอง พร้อมมั้ย เกือบละ เริ่มที่เรื่องน่าสนใจที่จะมาแบ่งปันกันดีกว่า
เร็วๆนี้เดี๊ยนซื้อหนังสือ "Are You Smart Enough to Work at Google?" เขียนโดย William Poundstone มาอ่าน แล้วก็เริ่มคิดสงสัยว่าฝรั่งนี่เค้าช่างสรรหาอะไรแปลกๆมาให้เราเรียนอยู่เรื่อยเลยนะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเหวอ ตายล่ะ แล้วชั้นจะไปเตี๊ยมคุณแคนดี้ (Candidate)ชั้นยังไงเนี๊ยถ้าเจอคำถามแบบนี้

อันนี้ตัวอย่างแรกๆ ที่ หัวหน้างานที่ Google ใช้สัมภาษณ์

"You are shrunk to the height of a nickel and thrown into a blender. Your mass is reduced so that your density is the same as usual. The bladers start moving in sixty seconds. What do you do?", (P.4, Poundstone, William.)

ตอบยากมั้ยเนี่ย คำถามประเภทนี้จะใช้ถามหลังจากที่ ได้คุยกันไปในระดับนึงแล้ว หรือ หลังจาก Behavioral base interview แล้วเค้าพอใจ และอยากจะทดสอบกึ๋นคุณ ว่าการแก้ปัญหาของคุณๆเป็นยังไง มีความยืดหยุ่น หรือยึดติด หรือ มีความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน บางคำถามเดี๊ยนยังแอบคิดว่า มาถามคนไทยจะตอบได้มั้ยเนี๊ย..เออ ถามไปได้นะ แบบนี้ก้อมีด้วยอ่ะ

แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ คำถามพวกนี้ส่วนใหญ่จะให้กับพวกบริษัทข้ามชาติที่มีการเติบโตสูง และต้องการคนที่ไม่ไดมีแค่สมอง แต่มีFlexibility และ Problem solving Skills สูง เค้าจะดูวิธีการคิดในการตอบคำถามของคุณค่ะว่าจะช่วยให้บริษัทเค้าไปรอด และ หรือ คุณจะอยู่รอดมั้ยในองค์กร เนื่องจากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น Google, Apple, Microsoft, Amazon, Accenture, PriceWaterhouse และบริษัทใหญ่ๆทั้งหลาย ส่วยใหญ่จะเป็นบริษัทจากอเมริกาที่จะถามคำถามแบบนี้ ถ้ามีใครอยากทำงานกับบริษัทดังๆแบบนี้ก็เตรียมตัวกันหน่อยนะคร้า แต่ขอบอกว่า บ้านเราคงไม่ได้เจอหนักแบบนี้เนื่องจากอุปสรรคทางด้านภาษาและวัฒนธรรม ถ้าขืนมาถามแบบนี้ แคนดึ้ของเดี๊ยนคงถอนตัวกันระนาวล่ะคราวนี้ คำถามแบบนี้ส่วนใหญ่จะถามพวก MD หรือ Senior Leadership positions เท่าที่เดี๊ยนเคยประสบพบเจอมาในบ้านเรา


ตัวอย่างคำถามให้ตอบกันมันส์ๆ
-How many cows are in Canada? (Google)

-What songs best describe your ethic? (Dell)

-Jeff Bezos walks into your office and says you can have a million dollars to launch your best entrepreneurial idea. What is it? (Amzon)

-What do you think about when you are alone in your car? (Gallup)

-How would you rate your money? (Marriott)

- Can you say: ’Peter Pepper Picked a Pickled Pepper’ and cross-sell a washing machine at the same time? (MasterCard)

- My wife and I are going on vacation, where would you recommend (PricewaterhouseCoopers)

- You are a head chef at a restaurant and your team has been selected to be on Iron Chef. How do you prepare your team for the competition and how do you leverage the competition for your restaurant? (Accenture)


คิดกันใหญ่เลยสิคะ ตัวอย่างนี้เดี๊ยนไปค้นมาเพิ่มให้เพราะในหนังสือมันช่าง Logic เยอะเหลือเกิน เอาไว้อ่านสักสามรอบจะมาย่อยให้ฟังอีกทีนะคร้า ขอให้ทุกคนโชคดีและมีความสุข สวัสดีปีใหม่ค่ะ