ต่อรองเงินเดือน กล้าๆหน่อยจ้า
หายหน้าหายตาไปแฟนเพจเริ่มมากระซิบถาม “เมื่อไหร่จะเขียนต่อคระ
หนูกำลังอ่านเพลินๆ” จัดไปค่ะ ที่สัญญาไว้
เรื่องสำคัญอันดับต้นๆของการเปลี่ยนงาน ต่อรองเงินเดือนจ้า
อันดับแรกนี่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่าการต่อรองที่เดี๊ยนจะกล่าวถึงเนี่ย
ไม่ใช่การโก่งค่าตัว แต่เป็นการ ต่อรอง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการกันทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ว่าจ้างและลูกจ้าง
ถ้าใครคิดว่าจะต้องได้เงินเดือนสองเท่าของที่ได้อยู่ตอนนี้ ตื่นได้แล้วค่ะ
ฝันหวานเกินไปละ
1.
เวลาคุยกับ Head Hunter ให้คุณบอกรายละเอียดของเงินเดือนคุณโดยละเอียดนะคะ
ไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ หุ้นต่อปี ค่าคอมมิชชั่น โบนัสfixed
และvariable
ที่ต้องให้บอกเนี่ย
เพราะมันเป็นผลประโยชน์ของคุณๆเอง เวลาที่ Head Hunterได้งานมาเนี่ย
ทางลูกค้าเค้าจะบอกกระบอกเงินเดือนของตำแหน่งนั้นๆไว้แล้ว เวลาคุยกับคุณๆเนี่ย
ถ้าเงินเดือนยังอยู่ในกระบอกเงินเดือน จะได้คุยกันง่ายๆหน่อย ลูกค้าบางรายจะไม่ระบุ
ถ้าเจ๋งมาก็กล้าจ่าย อันนี้โชคดีไป
ส่วนเวลาเขียนใบสมัคร ไม่ต้องแจงค่ะ
เงินเดือนอย่างเดียวก็พอ เดี๋ยว HR เค้าจะถามรายละเอียดเองแหละ
2.
ขอ Expected Salary ในใบสมัครงาน
เค้าให้เขียนใบสมัครและต้องเติมลงไปเนี่ย แนะนำให้เขียน Negotiableไม่แนะนำให้ใส่ตัวเลขนะคะคุณขา
คุณบางคนเล่นใส่ซะ 2 เท่าของเงินเดือนเดิมลงไปในนั้น ใครเค้าจะกล้าเรียกสัมภาษณ์รอบสองคะคุณ
บางคนแอบเกรงใจHR ใส่น้อยๆลงไป
พอถึงเวลา offer เค้าให้ตามที่ขอกลับไม่พอใจ อยากได้เพิ่มซะงั้น HR เค้าก็จะบอกว่า”ก็คุณเขียนไว้บนใบสมัครนี่ฮ้า
กลับคำพูดไม่ดีนะฮ้า” อะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษร อย่าไปcommit โดยที่ยังไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเลยเชียว
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าคุณต้องไม่ได้ต่ำกว่าที่เดิมแน่ๆ
เวลาสัมภาษณ์ ก็บอกเงินเดือนที่ได้อยู่ตอนนี้ ส่วนที่ expect
ขอกลับไปคิดดูก่อน
อย่าโพล่งออกไปนะคะ คำพูดมันเอากลับมาไม่ด๊าย
3.
ส่วนใหญ่
การขึ้นเงินเดือนเวลาเปลี่ยนงานจะอยู่ประมาณ 10-35% แต่ถ้าเป็นตำแหน่ง
C Suite หรือผู้บริหารระดับสูงทั้งหลาย ก็ 0-10% ยิ่งตำแหน่งสูง เปอร์เซ็นต์ยิ่งขึ้นน้อย
เพราะเงินเดือนสูงอยู่แล้ว ดังนั้นนะคะ เดี๊ยนขอเตือนแฟนๆไว้เลยนะคะ
ว่าถ้าอยากได้งานใหม่ดีๆ อย่าได้ริอ่านบอก expectation 2
ของเงินเดือนปัจจุบัน หรือ ขึ้น50% เท่านะคระ เด๋วจะโดนด่าตามหลังมาไม่รู้ด้วย
แนะนำให้ดูสถานการณ์ด้วยจ้า คุณไม่ได้เก่งคนเดียวในโลกนี้หรอก
คนอื่นเค้าก็ทำได้ถ้าเค้ามีโอกาสดีๆ
4.
หลังจากที่สัมภาษณ์มาแล้ว
กรุณาทำการบ้านเรื่องเงินเดือนตัวเองด้วยคร้า คิดสะระตะให้ดีว่าเงินเดือนที่อยากได้น่ะ
Minimum เท่าไหร่ เราถึงจะพอรับได้ คิดเอาไว้ แล้วก็บอกเล่ามาที่Head
Hunter บ้างไรบ้าง เดี๊ยนจะได้รู้ตัว ต่อรองกับลูกค้าไว้รอ
ควรจะมีตัวเลข2 ตัวไว้ในใจ
คือ ที่อยากได้จริงๆ และที่Minimum ว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน Head Hunter จะช่วยประสานงานให้
อย่างที่บอกแหละค่ะ ดูสถานการณ์หน่อย ถ้าเค้าบอกว่าไม่ด๊าย
ไม่ได้ เพราะเงินเดือนสูงกว่าคนที่อยู่เดิม แต่เป็นบริษัทที่มั่นคงและมีcareer
path
คุณควรจะพิจารณาว่าจะรับเงินเดือนเท่าที่เดิมได้มั้ย
ในกรณีคุยตรงกับ HR บอกเค้าไปที่อยากได้เลยค่ะ
เค้าจะต่อรองลงมา ส่วนคุณก็ทีหน้าที่ตัดสินใจว่าMinimumที่รับได้น่ะ
เท่าไหร่ บอกเค้าไปเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องคุยกันหลายรอบ เสียเวลา ถ้าเค้าอยากได้คุณจริงๆ
เดี๋ยวเค้าก็พยายามที่จะคุยต่อเองแหละ อย่าเพิ่งไปหงอ กลัวไม่ได้งาน แต่อย่าเรื่องเยอะซะจนน่ารำคาญ
5.
Provident Fund, Insurance หรือ Benefits
อื่นๆเนี่ย
รู้ไว้ก็ดีนะคะ แต่ไม่ได้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้คุณตัดสินใจเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนงานหรอก
แต่ละบริษัทจะมีpolicy ของตัวเองส่วนใหญ่จะพอๆกัน ดังนั้น จงอย่าไป “เยอะ” กับอะไรที่เป็นPolicy
ที่HR
ไม่สามารถเปลี่ยนได้
เช่น “ที่เก่าชั้นได้ประกัน Out Patient ของ Bupa
Gold ชั้นต้องได้เหมือนเดิม” อย่าได้เป็นกันนะคะ คุณควรจะคำนวนดู profit&
lost ของตัวเองก่อน และ compensate ด้วยเงินเดือนที่ใหม่แทน
การต่อรองเงินเดือนไม่ได้ยากถ้าคุณคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ขอเงินเดือนขึ้นแบบมีเหตุผล
และมีจุดยืนอย่างไม่ละโมบ ขอให้ได้เงินเดือนขึ้นกันสมใจนะคร้า
หาอะไรทำเพิ่มดีกว่าครับ ผมทำอันนี้จนลาออกจากงานได้แล้วครับ ลองดู
ReplyDeletehttps://bit.ly/2CTPyUL